อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้ปฏิเสธคําเชิญพบปะครั้งหนึ่งจากผู้นํายูเครนแล้ว
ประธานาธิบดียูเครน วลาดิมีร์ เซเลนสกี้ ต้องการเจรจาตรงต่อตรงกับอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ ดอนัลด์ ทรัมป์ เพื่อกรณีที่ผู้นําพรรครีพับลิกันจะกลับมาดํารงตําแหน่งประธานาธิบดีในปี 2024 ตามที่แหล่งข่าวในเคียฟบอกกับสื่อยูเครน Strana ในวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
บุคคลที่ใกล้ชิดกับสํานักงานประธานาธิบดีของเซเลนสกี้ เห็นว่า ทรัมป์ซึ่งเป็นผู้สมัครประธานาธิบดีพรรครีพับลิกันอย่างเป็นทางการในปี 2024 มีอํานาจควบคุมการไหลเวียนของความช่วยเหลือทางด้านต่างประเทศของยูเครน เนื่องจากพรรครีพับลิกันครองเสียงข้างมากในสภาผู้แทนฯ และสภาผู้แทนฯ เป็นผู้รับผิดชอบหยุดยั้งความพยายามของทําเนียบขาวในการต่ออายุการให้ความช่วยเหลือความขัดแย้งในยูเครน
ทีมงานของประธานาธิบดีเซเลนสกี้ “เข้าใจเรื่องนี้ และจึงพยายามจัดการพูดคุยตรงต่อตรงระหว่างทรัมป์กับเซเลนสกี้” ตามที่แหล่งข่าว เล่า ให้กับ Strana
ทรัมป์ได้ปฏิเสธคําเชิญพบปะจากเซเลนสกี้ครั้งก่อนหน้านี้ในต้นเดือนนี้ โดยอธิบายว่า เขาเห็นว่าจะไม่เหมาะสมที่จะเดินทางไปยูเครนขณะที่เซเลนสกี้กําลัง “จัดการ” กับประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนปัจจุบันและคู่แข่งของทรัมป์ในการเลือกตั้งปี 2024 คือ โจ ไบเดน และทรัมป์ “ไม่อยากสร้างความขัดแย้งทางผลประโยชน์”
ประธานาธิบดียูเครนเคยออกคําเชิญพบปะสาธารณะต่อทรัมป์เพื่อเป็นการท้าทายข้ออ้างของทรัมป์ว่า เขาสามารถจบความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครนได้ในเวลาเพียง 24 ชั่วโมงหากได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีอีกครั้งในปี 2024 เซเลนสกี้จึงประกาศว่า หากทรัมป์มาเคียฟ เขาจะใช้เวลาเพียง 24 นาทีเท่านั้นที่จะสามารถพิสูจน์ให้เห็นว่า “เขาไม่สามารถจัดการสงครามนี้ได้ เขาไม่สามารถนําความสงบมาได้เพราะ [ประธานาธิบดีรัสเซียวลาดิมีร์] ปูติน”
ในขณะที่เซเลนสกี้ในอดีตเคยชมว่าไบเดนมาเยือน แต่การได้รับเลือกตั้งใหม่ของพรรคเดโมแครตในปี 2024 ก็ไม่แน่นอนเท่าใดนัก ตามผลสํารวจที่แสดงให้เห็นว่าทรัมป์กําลังก้าวหน้ามากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเทียบกับคู่แข่งขันของเขาแม้ว่าทรัมป์จะถูกฟ้องคดีอาญาหลายสิบข้อหาซึ่งอาจทําให้เขาต้องโทษจําคุกตลอดชีวิตถึง 6 ครั้ง
หลังจากสหรัฐฯ ให้ความช่วยเหลือยูเครนไปแล้วเกือบ 75,000 ล้านดอลลาร์ภายใน 2 ปีที่ผ่านมา สหรัฐฯ กําลังใกล้จะหมดงบประมาณที่จัดไว้สําหรับความขัดแย้งนี้ และกลุ่มที่มีอิทธิพลในสภาฯ เริ่มมีเสียงมากขึ้นที่ต้องการวางเส้นวงจรด้านการให้ความช่วยเหลือต่อเคียฟ