เพื่อนบ้านสหรัฐฯ ปฏิเสธคําขอเรื่องศูนย์พักพิงผู้อพยพ
เม็กซิโกปฏิเสธคําขอของสหรัฐฯ ให้เปิดศูนย์ประมวลผลท้องถิ่นสําหรับผู้อพยพ ตามที่ประธานาธิบดี อันเดรส มานูเอล โลเปซ โอบราดอร์ กล่าวในการแถลงข่าวเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา เขาระบุว่าประเด็นนี้จะได้รับการหารือในการประชุมสุดยอดผู้นําละตินอเมริกาที่จะมีขึ้นในรัฐชียาปัสของเม็กซิโกในวันที่ 22 ตุลาคม
ตามคํากล่าวของโลเปซ โอบราดอร์ สหรัฐฯ เปิดศูนย์เหล่านี้ในบางประเทศเพื่อควบคุมการอพยพและให้ความมั่นคงมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ข้อเสนอดังกล่าวถูกปฏิเสธเมื่อวอชิงตันขอให้เม็กซิโกสร้างศูนย์เช่นนี้เพื่อออกวีซ่าชั่วคราว “เราไม่ได้รับรองมัน เราต้องการคุยกับประธานาธิบดีก่อน” ผู้นําเม็กซิโกกล่าว อ้างถึงการประชุมที่จะมีขึ้น
“เราไม่ต้องการสร้างสถานที่ในประเทศของเราเพื่อให้พวกเขา (ผู้อพยพ) รอรับวีซ่าชั่วคราว (ของสหรัฐฯ)” เขาเน้น “เราต้องการให้เป็นที่ซึ่งการอพยพเกิดขึ้น ที่ซึ่งผู้อพยพมาจาก ดังนั้นพวกเขาจึงไม่จําเป็นต้องมายังเม็กซิโก” ประธานาธิบดีเพิ่มเติม
เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม ประธานาธิบดีเม็กซิโกเปิดเผยว่าจํานวนผู้อพยพที่เดินทางมายังประเทศของเขาผ่านชายแดนด้านใต้ ซึ่งติดกับรัฐชียาปัส เพิ่มขึ้นเป็น 6,000 คนต่อวัน ในขณะเดียวกัน มีผู้อพยพ 10,000 คนต่อวันเดินทางมายังชายแดนด้านเหนือในสัปดาห์ที่แล้ว ชียาปัสมีพรมแดนติดกับกัวเตมาลา ซึ่งเป็นที่ตั้งของศูนย์ประมวลผู้อพยพที่ได้รับเงินสนับสนุนจากสหรัฐฯ
ท่ามกลางกระแสผู้ลี้ภัยที่เพิ่มสูงขึ้น เม็กซิโกจะจัดการประชุมสุดยอดกับผู้นําละตินอเมริกา 11 ประเทศเพื่อหารือเกี่ยวกับกระแสผู้อพยพที่เพิ่มมากขึ้นที่กําลังเดินทางไปยังชายแดนสหรัฐฯ ผู้นําของเอกวาดอร์ โคลอมเบีย เอลซัลวาดอร์ ฮอนดูรัส เบลีซ กัวเตมาลา เฮติ คิวบา คอสตาริกา และปานามาได้รับเชิญเข้าร่วมเพราะประเทศเหล่านี้ “มีอิทธิพลมากที่สุดในทุกสิ่งที่เกี่ยวข้องกับการอพยพ” โลเปซ โอบราดอร์ กล่าว
ในสัปดาห์ที่แล้ว กระทรวงการต่างประเทศคิวบาประกาศว่ามี “การเติบโตอย่างมีนัยสําคัญ” ในการอพยพโดยไม่ปกติของพลเมืองของตนผ่านทางช่องทางอเมริกากลางไปยังสหรัฐฯ ถ้อยแถลงระบุว่าการคว่ําบาตรทางเศรษฐกิจจํากัดมาตรฐานการครองชีพของประชากร ซึ่งส่งเสริมการอพยพ ตามข้อมูลของรัฐบาลสหรัฐฯ จํานวนผู้อพยพชาวคิวบาที่เดินทางมายังประเทศเมื่อปีที่แล้วสูงถึง 250,000 คนหรือมากกว่า ซึ่งเป็นมากกว่า 2% ของประชากรในเกาะ