อัลเลียนซ์ เทรด ในเอเชียแปซิฟิก วางแผนขยายธุรกิจในอินเดีย

วางแผนการลงทุนสําหรับเครื่องยนต์เติบโตใหม่ในเอเชียแปซิฟิก

ฮ่องกง, 10 ต.ค. 2566 — ตามรายงานล่าสุดจากAllianz Trade เศรษฐกิจโลกจะยังคงเผชิญกับความท้าทาย โดยมีการเติบโตที่ซบเซาจากผลกระทบสะสมของการตึงตัวของนโยบายการเงินจนถึงสิ้นปี 2567 ทั้งนี้ คาดการณ์ว่าการเติบโตของ GDP ทั่วโลกจะชะลอตัวลงเป็น +2.7% ในปี 2566 และ +2.4% ในปี 2567; สหรัฐฯ จะมีการเติบโตของ GDP เพียง +1.1% ในปี 2567 ซึ่งเป็นอัตราที่ช้าที่สุดนับตั้งแต่ปี 2552; จีน คาดว่าจะมีการลงจอดอย่างช้าๆ ที่ +4.7% ในปี 2567 และ +4.2% ในปี 2568; สําหรับเอเชียแปซิฟิกโดยรวม Allianz Trade คาดการณ์อัตราการเติบโต +4.1% สําหรับปี 2567 และ +3.9% สําหรับปี 2568

ขณะเดียวกัน อินเดีย กําลังจะก้าวหน้ากว่าประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคในด้านการเติบโตของ GDP จริงในทศวรรษหน้า รวมถึง จีน เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมทั้งประเทศอาเซียน Allianz Trade คาดว่าเศรษฐกิจอินเดียจะเติบโตเฉลี่ย +6.4% ระหว่างปี 2566 ถึง 2570 โดยมีการสนับสนุนจากการเติบโตทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งและเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า Allianz Trade ได้ระบุอินเดียเป็นเครื่องยนต์เติบโตใหม่ในเอเชีย เพื่อตอบสนองต่อสิ่งนี้ Allianz Trade ได้แต่งตั้งผู้จัดการประเทศใหม่เพื่อสนับสนุนการเติบโตในอินเดีย และวางแผนการลงทุนเพิ่มเติมในปีนี้

ในด้านการส่งออก สหรัฐฯ ยังคงเป็นหุ้นส่วนการส่งออกที่ใหญ่ที่สุดของอินเดีย โดยคาดว่ากําไรจากการส่งออกของอินเดียจะเพิ่มขึ้น6.86 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2567 สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และเนเธอร์แลนด์ตามมาเป็นหุ้นส่วนการส่งออกที่สําคัญ โดยคาดว่ากําไรจากการส่งออกจะอยู่ที่2.68 พันล้านดอลลาร์สหรัฐและ1.58 พันล้านดอลลาร์สหรัฐตามลําดับ จีนและสิงคโปร์ตามมาเป็น 5 อันดับแรกด้วยกําไรจากการส่งออกที่จะเพิ่มขึ้นเป็น1.29 พันล้านดอลลาร์สหรัฐและ1.01 พันล้านดอลลาร์สหรัฐตามลําดับ สําหรับภาคส่วนหลัก ๆ อินเดียคาดว่าจะได้รับกําไรจากการส่งออกซอฟต์แวร์และบริการ IT สูงสุดประมาณ19.28 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2567

สําหรับการล้มละลายทางธุรกิจ Allianz Trade คาดการณ์ว่าการล้มละลายทางธุรกิจในอินเดียจะกลับมาเพิ่มขึ้นในปีนี้อย่างมาก ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลจากการตามทันผลกระทบจากการระงับศาลเป็นเวลานานในช่วงปีโควิด คาดว่าการล้มละลายทางธุรกิจในอินเดียจะเพิ่มขึ้น +36% ในปีนี้และ +6% ในปี 2567 แม้ว่าจะมีตัวเลขการล้มละลายที่สูงเป็นสัดส่วน แต่ทั้งความต้องการเงินทุนหมุนเวียน (WCR) และวันขายที่ค้างชําระ (DSO) ในอินเดียคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 5 วันและ 3 วันตามลําดับ โดยรวมแล้วเอเชียและละตินอเมริกายังคงเป็นสองภูมิภาคเดียวที่การล้มละลายยังไม่กลับมาสู่ระดับปี 2562 ภายในปี 2567